อินทนิลน้ำ
ชื่อสามัญ Queen’s flower, Queen’s crape
myrtle, Pride of India, Jarul
ชื่อวิทยาศาสตร์ Lagerstroemia speciosa (L.) Pers.
อยู่ในวงศ์ LYTHRACEAE
ลักษณะ
ต้นอินทนิลน้ำ เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย
โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เจริญเติบโตเร็วหากปลูกในที่เหมาะสม
ต้นมีความสูงประมาณ ๕ -๒o เมตร
ลำต้นเล็กและมักคดงอ แต่พอใหญ่ขึ้นจะเปลา ตรง เป็นไม้ผลัดใบแต่ผลิใบใหม่ไว
โคนต้นไม้ไม่ค่อยพบพูพอน มักมีกิ่งใหญ่แตกจากลำต้นสูงเหนือจากพื้นดินขึ้นมาไม่มาก
จึงมีเรือนยอดที่แผ่กว้าง
เป็นพุ่มลักษณะคล้ายรูปร่มและคลุมส่วนโคนต้นเล็กน้อยเท่านั้น
(ถ้าเป็นต้นที่ขึ้นตามธรรมชาติในป่ามักจะมีเรือนยอดคลุมลำต้นประมาณ ๙/๑o ส่วนของความสูงของต้น) ส่วนผิวเปลือกต้นอินทนิลน้ำจะมีสีเทาหรือสีน้ำตาลอ่อน
มักจะมีรอยด่าง ๆ เป็นดวงขาว ๆ อยู่ทั่วไป ผิวเปลือกจะค่อนข้างเรียบ
ไม่แตกเป็นร่องหรือเป็นรอยแผลเป็น เปลือกมีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ที่เปลือกในจะออกสีม่วง นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด
มักพบขึ้นตามที่ราบลุ่มที่ชื้นแฉะทั่วไป รวมไปถึงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำลำห้วย
สรรพคุณของอินทนิลน้ำ
ใบอินทนิลน้ำมีรสขมฝาดเย็น ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
โดยใช้ใบแก่เต็มที่ประมาณ ๑ กำมือ
นำมาต้มกับน้ำดื่มในตอนเช้า (ใบแก่)
ช่วยลดระดับไขมันในเลือด
ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการสกัดสารจากใบอินทนิลน้ำด้วยแอลกอฮอล์
นำไปทำให้เข้มข้นจนได้สารสกัด ๓ mg./ml. แล้วนำไปทำเป็นยาเม็ดขนาดเม็ดละ ๒๕o mg. ให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานและมีภาวะไขมันในเส้นเลือดสูงรับประทานครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๓ ครั้ง นานติดต่อกัน ๔ สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยมีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดที่ลดลง (ใบ)
ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งได้มีการทดลองทั้งในประเทศไทย อินเดีย
และฟิลิปปินส์ โดยใช้ส่วนของใบแก่เต็มที่ เมล็ด และเปลือกผลในการทดลอง
ซึ่งพบว่ามันมีฤทธิ์เหมือนอินซูลิน (ใบแก่, เมล็ด, เปลือกผล)
- เมล็ด ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
- เปลือก ช่วยแก้ไข้ ช่วยแก้อาการท้องเสีย
- รากมีรสขม ช่วยรักษาแผลในช่องปากและคอ ใช้เป็นยาสมานท้อง
แก่นมีรสขม ใช้ต้มดื่มรักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ
แก้ปัสสาวะพิการได้
ส่วนข้อมูลทางเภสัชวิทยาของอินทนิลน้ำ ได้แก่ ช่วยต้านไวรัส
ยับยั้งเชื้อรา ช่วยลดอาการอักเสบ
ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเลือด (ใบ, แก่น, เมล็ด)
แต่ก่อนจะใช้ใบอินทนิลน้ำมารักษาโรคเบาหวาน
ควรให้แพทย์ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหรือตรวจปัสสาวะก่อนว่า
มีปริมาณน้ำตาลในเลือดอยู่เท่าใด เมื่อทราบปริมาณที่แน่นอนแล้วให้ปฏิบัติดังนี้
ให้ใช้ใบอินทนิลน้ำตากแห้งจำนวน ๑o%
ของระดับน้ำตาลในเลือดที่ตรวจได้
แล้วนำใบมาบีบให้แตกละเอียดและใส่น้ำดื่มเท่าปริมาณความต้องการที่ใช้ดื่มต่อวัน
เทลงในหม้อเคลือบหรือหม้อดิน (ไม่ควรใช้หม้ออลูมิเนียมต้มยา) หลังจากนั้นเคี่ยวจนเดือดประมาณ ๑๕ นาที
แล้วนำน้ำที่ได้จากการเคี่ยวมาชงใส่ภาชนะไว้ดื่มแทนน้ำตลอดวัน
ทำแบบนี้ติดต่อกันประมาณ ๒o-๓o วัน
แล้วค่อยตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อตรวจแล้วหากระดับน้ำตาลในเลือดลดลงเหลือเท่าใดก็ให้ลดใบอินทนิลน้ำลงตามสูตรเดิม
(ใช้ใบปริมาณ ๑o%
ของระดับน้ำตาลในเลือด) แล้วก็นำมาเคี่ยวแทนน้ำดื่มทุก ๆ วันติดต่อกันประมาณ 15 วัน แล้วค่อยไปตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอีกครั้งหนึ่ง
ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงจนอยู่ในระดับปกติ
และให้งดใช้อินทนิลน้ำชั่วคราว
แต่ถ้าหากระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นผิดปกติเมื่อใด
ก็ให้รับประทานอินทนิลน้ำใหม่ สลับไปจนกว่าจะหายจากโรคเบาหวาน
แหล่งอ้างอิง
เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, เว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่าและพันธุ์พืช (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม), หนังสือสมุนไพรบำบัดเบาหวาน ลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันในเลือด
(เภสัชกรหญิงจุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก), หนังสือเภสัชกรรมไทย
(วุฒิ วุฒิธรรรมเวช), หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
เล่ม 5, ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, พจนานุกรมไม้ดอกไม้ประดับในเมืองไทย
(วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม)